Last updated: 2016-09-05 | 6861 จำนวนผู้เข้าชม |
1. ฉีดโบท็อกซ์ ฉีดทำไม?
การฉีดโบท๊อกซ์นั้น ช่วยให้กล้ามเนื้อของส่วนที่ฉีดมีขนาดที่เล็กลง หากฉีดหน้าก็ทำให้หน้าเรียว ลดขนาดของกรามได้ ลดริ้วรอย ลดรอยตีนกา ทำให้ร่องลึกต่าง ๆ ดูตื้นขึ้น หากน่องใหญ่ก็ช่วยลดขนาดของน่องทำให้ท่อนขาดูเรียวลงได้ อีกทั้งยังฉีดเพื่อลดไมเกรน ลดอาการปวดหลัง แล้วยังสามารถฉีดลดเหงื่อที่ผิวหนังได้อีกด้วยค่ะ
2. แล้วฉีดโบท็อกซ์ชนิดใดจึงจะปลอดภัย
ในปัจจุบันนี้มีโบท็อกซ์ที่ใช้กันอยู่หลายชนิด แต่ในประเทศไทย ชนิดที่ผ่านการรับรองจาก อย.แล้วคือ Botulimun Toxin Type A เท่านั้น โดยจะนำเข้ามาจากทั้งประเทศเกาหลีและประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้โบท็อกซ์ที่นำเข้าจากเกาหลีจะได้รับความนิยมมากกว่าเพราะมีราคาที่ถูกกว่านั้นเอง ในขณะที่ของทางสหรัฐอเมริกาจะอยู่ได้นานกว่า ก็เป็นตัวเลือกให้ตัดสินใจกันได้ค่ะ
3. ทุกคนสามารถฉีดโบท็อกซ์ได้หรือไม่?
ผู้ที่ฉีดโบท็อกซ์ได้ควรมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ได้ทานยาประจำ และไม่ได้ตั้งครรภ์ หากใครที่มีปัญหาเหล่านี้อยู่ อย่าเสี่ยงฉีดโบท็อกซ์เลยค่ะ เพราะอาจส่งผลเสียกับตัวคุณมากกว่าได้ อีกทั้งควรฉีดโบท็อกกับแพทย์และขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง โดยดูจากใบประกอบโรคศิลป์และผลงานที่ผ่านมาเป็นตัวช่วยตัดสินใจ อย่าเสี่ยงฉีดกับหมอกระเป๋าหรือหมอเถื่อนเด็ดขาด เพราะอันตรายมากค่ะ
4. ต้องเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์
สำหรับสาวๆ ที่กำลังเตรียมตัวไปรับการฉีดโบท็อกซ์ควรหยุดยากลุ่มดังนี้ ยากลุ่มกรดวิตามินเอ, AHA รวมไปถึงยาแก้ปวดกลุ่ม NSaids เช่น Motrin, Naproxen, Brufen อย่างน้อย 1 อาทิตย์ก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ รวมทั้งงดการนวด, สครับ, ขัดหน้า อย่างน้อย 2-3 วันก่อนฉีด ทั้งนี้เพื่อลดรอยช้ำรวมทั้งผลข้างเคียงอื่น ๆ ด้วยค่ะ
5.ห้ามฉีดโบท็อกซ์ช่วงหัวค่ำ
ทำไมต้องห้ามฉีดโบท็อกซ์ในช่วงนี้ นั่นเป็นเพราะว่าหลังจากฉีด 4-5 ชั่วโมงแรกนั้น ต้องรักษาใบหน้าของคุณ ห้ามมิให้มีแรงกดทับใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ มิเช่นนั้นอาจทำให้ตัวยากระจายไปยังจุดอื่นๆ ที่ไม่พึงประสงค์ได้ อีกทั้งเวลานี้เป็นเวลาใกล้จะเข้านอนแล้ว หากคุณเผลอหลับไปแล้วพลิกตัวคว่ำหน้า จนตัวยาไหลไปกองที่อื่น ตื่นมาคุณอาจไม่อยากมองหน้าตัวเองในกระจกอีกเลยก็เป็นได้
6. หลังฉีดโบท็อกซ์เสร็จต้องเคี้ยวหมากฝรั่งอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง
เพราะกล้ามเนื้อจำเป็นต้องอาศัยการขยับตัวเพื่อให้ตัวยาโบท็อกซ์กระจายได้เต็มที่ในบริเวณนั้น ๆ ดังนั้นจึงควรเตรียมหมากฝรั่งใส่กระเป๋าไว้สำหรับเคี้ยวอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงค่ะ
7.ข้อสำคัญคือหลังฉีดโบท็อกซ์มาห้ามทำเลเซอร์อย่างเด็ดขาด
นี่เป็นคำเตือนที่สำคัญมาก หลังฉีดโบท็อกซ์มาในระยะ 2-3 อาทิตย์แรก ห้ามไปทำเลเซอร์อย่างเด็ดขาด เพราะแสงเลเซอร์จะทำให้โบท็อกซ์เสื่อมตัวเร็วขึ้น ใบหน้าคุณก็จะกลับสู่สภาพเดิมเร็วขึ้นนั่นเอง
8.โบท็อกซ์ไม่ใช่ของถาวร ต้องฉีดซ้ำสม่ำเสมอ
ตัวยาโบท็อกซ์จะออกฤทธิ์เต็มที่ในระยะ 2-3 อาทิตย์แรก และจะคงสภาพอยู่ได้ราว 4-5 เดือน เมื่อเวลาผ่านไปใบหน้าคุณหรือส่วนที่ไปฉีดมาก็จะกลับมาอยู่ในสภาพเดิมอีก หากอยากให้กล้ามเนื้อเรียวเล็กเหมือนเดิมก็ต้องไปฉีดซ้ำอีกนะ
9. การฉีดโบท็อกซ์มีความเสี่ยงได้เช่นกัน
ความเสี่ยงจากการฉีดโบท็อกซ์นั้น อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงต่าง ๆ ได้เช่น หนังตาตก มีอาการบวมแดง หางคิ้วตก ปากเบี้ยว ตาผิดรูป ฯลฯ เป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ก็จะหายไปเองเมื่อยาหมดฤทธิ์ แม้จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ควรเตรียมใจรับความเสี่ยงไว้ด้วยว่าอาจเกิดขึ้นได้ค่ะ
ได้ความรู้เกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ไปแล้วก็จริง แต่ก่อนฉีดทุกครั้งก็ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของคุณเป็นกรณี ๆ ไปนะคะ เพื่อความปลอดภัยและได้รับผลดีเต็มประสิทธิภาพ รวมทั้งความสวยเต็มพิกัดมาโดยมีความเสี่ยงน้อยที่สุดนั่นเองค่ะ
เรียบเรียงข้อมูลและภาพประกอบโดย wonderful.in.th
2021-02-19
2020-11-18
2021-03-09